4. ความยาวของสาย อีกหนึ่งส่วนประกอบที่สำคัญมาก ๆ ไม่แพ้ไปกับข้ออื่นเลยคือความยาวของสาย เพราะในบางครั้งตัวเชื่อมหรือพอร์ตที่ไว้สำหรับเสียบอาจอยู่ห่างจากจุดที่เราต้องการใช้แสงไฟ ดังนั้นยิ่งสาย USB มีความยาวมากเท่าไหร่ แน่นอนว่ามันจะเพิ่มความสะดวกให้กับเราได้มากขึ้นอย่างแน่นอน 5. จำนวนวัตต์ จำนวนวัตต์จะเป็นตัวที่บ่งบอกว่าหลอดไฟนั้นกินไฟมากน้อยแค่ไหน ฉะนั้นยิ่งมีวัตต์มากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งกินไฟฟ้ามากขึ้นตามไปเท่านั้น แต่ตรงจุดนี้อาจจะไม่ใช่ปัจจัยสำคัญสำหรับหลอดไฟ USB ที่เป็นหลอด LED สักเท่าไหร่ เนื่องจากหลอดชนิดนี้กินไฟฟ้าค่อนข้างน้อยถึงน้อยมาก แต่ใครที่อยากจะประหยัดไฟฟ้าจริง ๆ ก็อาจจะต้องดูรายละเอียดส่วนนี้ครับ 6.
เลือก หลอดไฟที่มีระบบ LED คุณภาพ ระบบนี้เป็นการให้แสงสว่างครับ ซึ่ง LED มันจะมีผลต่อแสงที่ออกมาเป็นอย่างมาก ฉะนั้นสินค้าตัวไหนที่มีระบบตัวนี้ดี แน่นอนว่ามันจะให้ความสว่างที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ยิ่งมีตัวชิพหรือจำนวนหลอด LED ข้างในมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งให้ความสว่างได้มากขึ้นตามไปด้วยนั่นเองครับ 2. ความยาวและความกว้าง ความกว้างของหลอดไฟเป็นสิ่งที่เราจะต้องพิจารณาให้ดี ๆ ว่าความยาวของมันเหมาะสมสำหรับการให้ความสว่างเพียงพอกับที่เราต้องการหรือไม่ ซึ่งหลอดไฟ USB ในท้องตลาดมีให้เลือกอยู่เป็นจำนวนมาก ฉะนั้นต้องสังเกตรายละเอียดส่วนนี้ให้ดีครับ เพราะถ้าหากคุณซื้อหลอดไฟที่สั้นเกิน มันอาจให้ความสว่างที่ไม่ครอบคลุม เผลอ ๆ คุณอาจจะต้องซื้อเพิ่ม จนทำให้เสียเงินโดยใช่เหตุ ดังนั้นอ่านขนาดของสินค้าทุกครั้งก่อนซื้อ 3. สีของไฟ ด้วยหลอดไฟของสินค้าประเภท USB แน่นอนว่าสีของมันจะออกมาในหลากหลายโทน ยิ่งในบางรุ่นสามารถเลือกสีได้มากกว่า 1 สีเลยทีเดียวครับ ดังนั้นก่อนที่จะเลือกสินค้าอาจจะต้องเช็กรายละเอียดหรือภาพของมันก่อนว่า แสงที่ออกมาจากหลอดไฟนั้นอยู่ในโทนไหน แล้วโทนเหล่านั้นเหมาะกับเราหรือเป็นสีที่เราต้องการหรือไม่?
4 เซนติเมตร วัสดุ ไม่ระบุ กำลังไฟ 8.